น้ำ

น้ำ คำสั้นๆ หรือชื่อเคมีว่า h 2o เป็นธาตุสำคัญหนึ่งใน ๔ ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุก
ชนิดในโลก       เป็นที่ทราบกันอยู่ว่า สัตว์หรือมนุษย์ถ้าขาดอาหารจะตายในเวลาไม่นานวัน
นัก แต่ถ้าขาดน้ำจะตายก่อนขาดอาหาร เช่นเดียวกับต้นไม้ใหญ่ทั่วๆไป ถ้าขาดน้ำต้นไม้ก็
จะขาดใจตายเพราะไม่สามารถจะดูดซึมอาหารเข้าไปเลี้ยงลำต้นได้ เพราะเหตุนี้น้ำจึงมี
ความหมายแก่ชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์ตลอดจนต้นไม้ด้วย       ระบบย่อยอาหารจะหยุด
ทำงานถ้าขาดน้ำและร่างกายของคนที่ท้องเดินโดยเสียน้ำในร่างกายไป คนๆนั้นจะถึงแก่ความตาย
เช่น คนเป็นโรคอหิวาต์         ฉะนั้นน้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญมากในการมีชีวิตอยู่รอดของทั้งมนุษย์และสัตว์
ด้วยเหตุนี้มีการกล่าวขวัญกันในวงการแพทย์สมัยโบราณซึ่งแพทย์สมัยใหม่ก็ยอม
รับว่า ถ้าคนเราดื่มน้ำมากๆมีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย เช่นใครก็ตามเกิดเป็นไข้ ตัวร้อน ถ้า
เขาไม่ต้องกินยาเพียงดื่มน้ำสะอาดมากๆอาการไข้ก็จะทุเลาลงได้ ไม่มีตำราการแพทย์
ขนานใดเลยที่ห้ามการดื่มน้ำ นอกจากหลังผ่าตัด เพราะแพทย์ต้องการให้เลือดจากแผลไหล
ออกน้อยกว่าปกติ
น้ำ       ในทางธรรมชาติจึงเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงร่างกายให้ชุ่มชื่นเพราะในร่างกาย
ของมนุษย์และสัตว์ต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่มิใช่น้อย การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพจึงเกิดขึ้นโดย
อัตโนมัติ เพราะช่วยระบบขับถ่ายในลำไส้ให้ไหลเวียนได้ดีกว่าที่ควร       การฝึกให้มีการดื่ม
น้ำของคนเราจึงเกิดขึ้น โดยมากเวลาก่อนนอนหรือตื่นนอนแพทย์จะแนะนำให้ดื่มน้ำเต็ม
อิ่มของแต่ละคน ไม่ใช่หมายถึงว่าจะต้องดื่มเท่านั้นแก้วเท่านี้แก้วเป็นการบังคับ เพราะบาง
คนดื่มใหม่ๆดื่มได้แค่แก้วเดียว หลังจากฝึกบ่อยๆก็อาจจะดื่มได้มากแก้วขึ้นเป็นธรรมดา
ทุกวันนี้ นอกจากการบริหารร่างกายโดยการวิ่งหรือเดินออกกำลังแล้ว การฝึกร่าง
กายให้ดื่มน้ำมากๆตอนเช้าหรือก่อนนอนเป็นการประเทืองสุขภาพได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะไม่
เปลืองค่าใช้จ่ายอะไรเพราะเพียงเอาน้ำกรองหรือน้ำสะอาดมาต้ม ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเอามา
ดื่มเท่านั้น       สุขภาพของคนเรานั้นถ้ารู้จักรักษาด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ฟุ่มเฟือยแล้ว ก็ไม่จำเป็น
ต้องไปหาแพทย์ เพราะไม่ป่วยไข้ง่ายๆ การดื่มน้ำมากๆตอนตื่นนอนและก่อนนอนจนเป็น
นิสัยนั้นทำให้สุขภาพของทุกคนดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้าใครไม่เคยก็เคยเสีย จะรู้ว่าร่างกาย
ของคุณแช่มชื่น แจ่มใสขึ้นอย่างนึกไม่ถึง ระบบไต ระบบขับถ่ายจะทำงานดีขึ้นกว่าตอนที่
คุณไม่ค่อยสนดื่มน้ำ




พักสายตาสักหน่อย






น้ำ.....ยารักษาสารพัดโรค

หลายๆท่านคงมีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ซึ่งเกิดจากท้องผูกต่อมาไม่นานก็กลาย
เป็นโรคริดสีดวงทวารหรือลามปามไปอีกหลายโรค การดื่มน้ำเป็นวิธีรักษาโรคชนิดนี้ให้หาย
ได้        นี่เป็นตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการใช้น้ำรักษาโรค    คุณ
ประยูร    จรรยาวงษ์ เคยเขียนไว้ในเรื่องน้ำ...ยาระบายที่ไม่ต้องซื้อหา ดังนี้
เมื่อราวๆยี่สิบปีที่แล้วได้มีใบปลิวชักชวนให้ผู้คนหันมาดื่มน้ำ ๕ แก้วในตอนเช้า โดย
บอกว่า น้ำ ๕ แก้วนี้ สามารถบำบัดโรคได้ถึง ๔๐ โรค และยังทำให้มีสุขภาพแข็งแรงด้วย
   เป็นความรู้มาจากเมืองจีน ใบปลิวนี้มีผู้สนใจมาก มีการพิมพ์แจกกันต่อๆไป    ในช่วงที่มี
คนนิยมดื่มน้ำ ๕ แก้วนี้ มีแพทย์แผนปัจจุบันบางท่านออกโรงมาห้ามปรามว่า การดื่มน้ำที
เดียว ๕ แก้ว เป็นวิธีการที่ผิดธรรมชาติ เป็นการดื่มที่มากเกินไป ทำให้ไตและสมองเสียได้
 จากนั้นการดื่มน้ำ ๕ แก้วก็ซบเซาไป
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ทางโครงการณ์สมุนไพร เพื่อการพึ่งตนเองพยายามกระตุ้น ส่ง
เสริมให้คนหันมาสนใจดื่มน้ำ ๕ แก้วอีกครั้ง    ทั้งนี้เพราะมีคณะแพทย์กลุ่มหนึ่งยืนยัน
ว่า การดื่มน้ำ ๕ แก้ว ไม่มีพิษหรืออันตรายต่อไต หรือสมองอย่างที่ถูกกล่าวหา คณะแพทย์กลุ่มนี้
ยังส่งเสริมการดื่มน้ำ ๕ แก้วด้วยว่า เป็นสิ่งที่ดีน่าปฎิบัติ          การกระตุ้นในครั้งนั้นก็ได้รับความสนใจพอสมควร
อย่างตัวผมเองแต่ก่อนนั้น มักท้องผูกเป็นประจำ เพราะเป็นคนไม่ชอบกินผักและ
ผลไม้   เมื่อท้องผูกบ่อยๆก็เกิดเป็นโรคริดสีดวงทวาร และเจ้าโรคนี้ไม่ถูกกับอาการท้องผูกเลย
ท้องผูกทีไรเวลาถ่ายเป็นต้องมีเลือดออกมาทุกที เพราะก้อนที่ถ่ายออกมานั้นแข็งมาก
มันจะไปขูดหัวริดสีดวง ทำให้หัวริดสีดวงทวารแตกมีเลือดไหลออกมา เวลาถ่ายก็เจ็บปวดมาก
กว่าจะถ่ายได้ก็แสนจะทรมาน ถ่ายแล้วปวดทรมานไปหลายวัน เพราะหัวริดสีดวงถูกขูดถูกรูดจนอักเสบบวม
เมื่อเป็นดังนี้ทำให้ต้องนึกถึงยาถ่าย ยาระบาย ไม่อย่างนั้นหัวริดสีดวงแย่แน่ๆ   แต่
จนแล้วจนรอดก็หายาระบายที่ถูกใจไม่ได้ เพราะยาระบายพวกมะขามแขก, ฝักคูณ, ใบ
ระกา, ยาดำ, ชุมเห็ดเทศ, รวมทั้งยาถ่ายแผนปัจจุบันทั่วไป ยาพวกนี้จะออกฤทธิ์ไประคาย
เคืองลำไส้ ใช้ทุกวันไม่ดี ทำให้ลำไส้ด้าน ลำไส้เสียเพราะเคยยา ทำให้ติดยา ใช้แล้วต้องเพิ่ม
ขนาดยาไปเรื่อยๆจนลำไส้พัง   จะใช้เม็ดแมงลักก็ไม่ได้ผล เพราะฤทธิ์อ่อนเกินไป
ช่วงที่น้ำ ๕ แก้วเป็นที่ฮือฮา ผมก็ได้อ่านใบปลิวนี้ด้วย อ่านเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นผมก็
กินเลย ๕ แก้ว     กินแล้วรู้สึกอึดอัดในท้องมาก อยากจะอาเจียร ท้องก็ไม่ระบาย เข็ดไปเลย
คิดไปว่าใครจะไปกินได้น้ำตั้ง ๕ แก้ว
หลังจากนั้นอีก ๓ - ๔ ปี ผมได้พบกับ พระอาจารย์บัญญัติ       อนุตตโร วัดป่า
ธรรมดา จ. ขอนแก่น     ท่านเป็นคนแข็งแรงมากและสนใจสมุนไพรมากด้วย ท่านดื่มน้ำ ๕
แก้วทุกวัน บอกว่าดื่มแล้วดีมาก สุขภาพดี     แล้วท่านก็พยายามชักชวนให้ชาวบ้านแถวนั้น
ดื่ม ใครที่ปฎิบัติตามคำแนะนำก็ได้ผลดี
เมื่อเห็นกับตาว่ามีคนกินน้ำรวดเดียว ๕ แก้วได้ ผมก็เริ่มลองกินดู ลองคราวนี้ฉลาด
ขึ้นหน่อย คือ วันแรกผมกินไป ๓ แก้วก็อิ่มเต็มที่แล้ว ก็ไม่กระเสือกกระสนกินต่อไป   หยุด
แค่นั้น ไม่ถ่ายก็ช่างมัน           วันที่สองผมเพิ่มไปอีกคำหนึง ค่อยๆเพิ่มไปแบบนี้ทุกวัน พอ
กินถึง ๕ แก้วได้ ก็ได้เรื่อง คือ ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ และไม่ใช่วิ่งเข้าครั้งเดียว ต้องเข้าสองหน
เว้นระยะห่าง ๑ ชั่วโมง     เวลาถ่ายก็ถ่ายเป็นน้ำออกมาเลย มีความรู้สึกว่าลำไส้ถูกล้าง
เพราะช่วงท้ายๆของการถ่ายของเก่าที่ออกมานั้น มีกลิ่นเหม็นเน่าผิดปกติ เหมือนกับว่าของ
เสียที่เคยคั่งค้างอยู่ลึกๆข้างในลำไส้ ถูกน้ำกวาดออกมาหมด   แต่วันหลังๆไม่มีกลิ่นเหม็น
นี้ เพราะของเก่าถูกกวาดหมดแล้ว       ตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้พบยาระบายที่ถูกใจ คือใช้ได้ทุกวันโดยไม่ต้องห่วงกังวลถึงพิษภัย.

ทำไมต้องกินก่อนล้างหน้าแปรงฟัน
ผมเคยลองกินน้ำ ๕ แก้วตอนกลางวันและตอนเย็น ดูซิว่ากินแล้วจะระบายไหม
ปรากฏว่าเฉยมาก กินกี่ครั้งก็เฉย ต่อมาผมก็สังเกตุตัวเองว่า ครั้งใดที่ผมตื่นขึ้นมาสัก ๑ - ๒
ชั่วโมงแล้วค่อยกินน้ำ ๕ แก้วก็เฉยเช่นกัน ต้องตื่นปุ๊บกินปั๊บจึงจะได้ผลดี   ทำให้คิดว่าที่เขา
กำหนดให้กินก่อนล้างหน้าแปรงฟันนั้นก็คงเพื่อให้รีบกินทันทีหลังตื่นนอน เพราะบางคนล้าง
หน้าแปรงฟันแล้วก็ติดพันไปทำโน่นทำนี่ กว่าจะนึกถึงน้ำ ๕ แก้วได้ก็สายไปแล้ว         ส่วน
ท่านใดที่รังเกียจขี้ฟันตัวเอง จะล้างหน้าแปรงฟันก่อนแล้วค่อยกินน้ำ ๕ แก้วก็ไม่ผิดกติกา
อะไร แต่ต้องรีบกินทันที อย่าโอ้ เอ้ไปทำอย่างอื่นก่อน

ทำไมน้ำ ๕ แก้วจึงเป็นยาระบายท้องได้
ทุกวันนี้วงการแพทย์ยังไม่ยอมรับว่าการกินน้ำ ๕ แก้วในตอนเช้าเป็นยาระบายได้
ทั้งๆที่มีหลายคนใช้เป็นยาระบายอยู่และระบายได้จริง ขณะที่รอคอยการทดลองและวิจัย
ของวงการแพทย์ เราก็ลองหาเหตุผลกันดู
การที่ลำไส้จะทำงานบีบตัวขับถ่ายของเสียออกไปนั้น ลำไส้ต้องถูกกระตุ้นก่อน การ
กระตุ้นลำไส้มี ๒ วิธีคือ   วิธีที่ ๑ กระตุ้นโดยไปสะกิดสะเกามัน เหมือนคนบ้าจี้ถูกจี้นั่นแหละ
ครับ ลำไส้พอถูกสะกิดถูกสะเกา มันจะสะดุ้งบีบตัวไล่ของเก่าออกมา ยาพวกใบมะกา, ยาดำ, ชุมเห็ดเทศ, ฝักคูณ, สลอด ออกฤทธิ์โดยวิธีนี้ ยาไหนสะกิดแรงก็ถ่ายหนัก ส่วนน้ำนั้นเป็นตัวหล่อลื่น ไม่มีวี่แววจะเป็นตัวสะกิดลำไส้ได้เลย น้ำจึงไม่ออกฤทธิ์โดยวิธีนี้แน่
วิธีที่ ๒ กระตุ้นโดยไปดันมัน   ลำไส้มันเหมือนสปริง คือถ้าไปดันมันมากๆจนถึงจุด
หนึ่ง มันจะดีดตัวกลับคือบีบตัว พอลำไส้บีบตัว ของเก่าก็ถูกขับออกมา น้ำน่าจะกระตุ้นลำ
ไส้ทำงานโดยวิธีนี้ เพราะเวลาถ่ายจะมีน้ำออกมามาก แสดงว่าน้ำที่กินเข้าไปนั้นตกไปถึงลำ
ไส้ และตกไปอย่างรวดเร็ว เพราะกินไม่ถึง ๑๕ นาทีก็ปวดถ่ายแล้ว เมื่อเรากินน้ำเข้าไป
มากๆคือกินถึง ๕ แก้ว น้ำจะไปดันลำไส้จนลำไส้บีบตัวทำงาน
อาจมีคนแย้งว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วทำไมตอนกลางวันกินน้ำ ๕ แก้วแล้วจึงไม่
ระบาย     เหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ ตอนกลางวันนั้นท้องเราไม่ว่างจริง ไม่เหมือนตอน
ตื่นนอนใหม่ๆ น้ำที่กินเข้าไปจึงถูกขัดขวางโดยอาหารในกระเพาะ เล็ดลอดตกไปถึงลำไส้ได้
น้อยและช้า ไม่ไหลบ่ามาเหมือนตอนเช้า     อีกเหตุผลหนึ่งก็คือในช่วงกลางวันนั้น ลำไส้มัน
ตื่นเสียแล้ว มันไม่บ้าจี้เสียแล้ว หลังตื่นนอนใหม่ๆนั้นลำไส้ยังไม่ได้ทำงาน มันงัวเงียอยู่ พอ
โดนน้ำดันเข้ามาก็ตื่นเต้นบ้าจี้รีบทำงาน     เหตุผลนี้อาจถูกอาจผิดก็ได้ ก็ต้องทดลองทด
สอบสังเกตุกันต่อไป

ข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆ
มีบางครั้งที่กินน้ำ ๕ แก้วไปแล้วยังเฉย ช่วงนี้น่าอึดอัดเพราะน้ำอยู่เต็มท้องแต่ไม่
ถ่าย จะกินอะไรก็ไม่ได้ เพราะอิ่มน้ำ ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องช่วยโดยออกแรงเบ่ง เมื่อกินน้ำ
เข้าไปแล้วเราก็ต้องคอยเบ่ง คนที่มักท้องผูกต้องเป็นคนขี้เบ่ง เบ่งไปเบ่งมาก็ปวดท้องขึ้นมา
ได้ วิ่งเข้าห้องน้ำได้ การช่วยอีกอย่างคือกินน้ำเข้าไปอีก บางทีน้ำ ๕ แก้วยังไม่มากพอ ก็ต้อง
กินเพิ่มเข้าไปเป็น ๖ แก้ว ๗ แก้ว ให้น้ำไปดันลำไส้ให้ได้ วิธีช่วยอีกวิธี คือ กินน้ำร้อนจัดๆ
เข้าไปอีกหนึ่งแก้ว ค่อยๆจิบกินไปเรื่อย น้ำร้อนจัดจะช่วยระบายท้องได้
มีบ่อยครั้งที่เรากินน้ำเข้าไปทีเดียว ๕ แก้วไม่ได้ อย่างเช่นตัวผมนี้ มีน้อยวันที่กิน
รวดเดียว ๕ แก้วได้ ส่วนใหญ่แล้วจะกินได้เพียง ๓ แก้วก็พะอืดพะอมแล้ว ต้องทิ้งไว้สัก ๑๐
นาทีหรือ ๑๕ นาที ให้น้ำตกลงไปในลำไส้ก่อนจึงกินได้อีก ๑ แก้ว หลังจากนั้นอีก ๑๐-๑๕
นาทีก็กินไปอีก ๑ แก้ว ช่วงระหว่างนี้ก็คอยเบ่งอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องเบ่งมาก เบ่งเพียงน้อยๆก็พอ
มีหลายวันเหมือนกันที่ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าท้องมันอิ่มตื้อ ไม่อยากกินน้ำเลย รู้สึกว่ากินน้ำ
แล้วจะแน่นกระเพาะ ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็เริ่มต้นกินได้แค่ ๑ แก้ว รอสัก ๑๐ นาทีกินอีก ๑
แก้ว รอไปกินไปแบบนี้จนครบ ๕ แก้ว และก็ต้องคอยเบ่งอยู่เรื่อยๆเช่นกัน สักพักก็ปวดท้องถ่าย
ข้อควรรู้อีกอย่างก็คือ เคยมีคนที่ท้องผูกอย่างหนัก แบบที่กินยาถ่ายมามากต่อมาก
ก็ไม่ได้ผล มากินน้ำ ๕ แก้ว กลับได้ผล จนเจ้าตัวเองก็อดปนะหลาดใจไม่ได้ว่า ทำไมมาหาย
กับยาง่ายๆเช่นนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยเชื่อมาก่อนเลย ที่กินก็เพราะถูกเคี่ยวเข็ญให้กิน

ข้อควรระวัง
  1. เวลาที่น้ำ ๕ แก้วออกฤทธิ์เป็นยาระบายนั้น ฤทธิ์จะค่อนข้างแรง ทำให้เราปวดเบ่ง
    มาก ถ่ายแรง ถ่ายเป็นน้ำพุ่งออกมาเหมือนคนท้องเสีย เรียกว่าขับจนหมดไส้ อันนี้
    เป็นอันตรายต่อคนที่เป็นริดสีดวงทวาร เพราะเบ่งมากๆไม่ได้ หัวริดสีดวงทวารจะ
    อักเสบกำเริบ ดังนั้นคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวารต้องคอยกลั้นเบ่งเอาไว้บ้าง อย่า
    ตามใจน้ำจนเกินไป
  2. คนที่เป็นโรคหัวใจ หรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง ถ้าจะกินน้ำ ๕ แก้ว ต้องระมัด
    ระวังเป็นพิเศษ เพราะน้ำที่กินเข้าไปทีเดียวมากๆนั้นจะเข้าไปอยู่ในเลือดแบบพรวด
    เดียว ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นทันที โอกาศที่จะเกิดเส้นโลหิตในสมองแตกมี
    มากอยู่ หัวใจเองก็จะได้รับเลือดมากเกินไป จนทานไม่ไหว อาจเกิดหัวใจวายได้
ข้อห้ามใช้
  1. คนที่ไม่เคยกินน้ำตอนเช้า ห้ามกินน้ำรวดเดียวทันที ๕ แก้ว เพราะร่างกายจะปรับ
    ตัวไม่ทัน ทำให้เกิดเวียนหัวเพราะน้ำไปคั่งที่สมอง และเกิดอาเจียนได้
  2. อย่ากินน้ำอุ่นเพราะจะทำให้อาเจียนได้ ควรกินน้ำที่ปล่อยจนเย็นสนิทแล้ว และอย่า
    กินน้ำเย็นจัดเกินไป น้ำแช่ตู้เย็นห้ามกินถ้าต้มน้ำก่อนนอน ตื่นเช้ามากินกำลังพอดี
  3. คนที่ไตทำงานไม่ดี หรือไตเสีย กลั่นกรองปัสสาวะไม่ได้ หรือได้ไม่ดี พวกนี้จะมี
    อาการตัวบวม ห้ามกินน้ำเข้าไปมากๆเพราะกินแล้วน้ำไม่มีทางออก เนื่องจากไต
    หรือเครื่องสูบน้ำระบายออกไม่ทัน น้ำจะท่วมขังอยู่ในนั้น
  4. มีบางคนแพ้น้ำ กินน้ำ ๕ แก้วแล้วถ่ายรุนแรงมาก ถ้าเป็นแบบนี้ห้ามกิน

ปัญหาและอุปสรรค
ผู้ที่ต้องมีธุระเดินทางออกนอกบ้านในตอนเช้า จะมีปัญหาและอุปสรรคในการดื่ม
น้ำ ๕ แก้วมาก เพราะขณะที่เดินทางอยู่บนรถนั้น จะเกิดปวดท้องหนักหรือปวดท้องเบาขึ้น
มาอีกหน ซึ่งกลั้นได้ยากลำบากมาก เป็นความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งยวด มีหลายคนที่ดื่มน้ำ
๕ แก้วไม่ได้ เพราะอุปสรรคอันนี้
มีบางคนผ่านอุปสรรคนี้ได้ คือหลังจากกินไปทุกวัน ร่างกายเริ่มปรับตัว ทำให้ถ่าย
หนักและเบาเพียงครั้งเดียว   แต่บางคนร่างกายไม่ปรับตัว อย่างเช่ยตัวผมเองในช่วง ๒
ชั่วโมงหลังจากกินน้ำ ๕ แก้วลงไป จะต้องเบาอย่างน้อย ๒ ครั้ง และบางครั้งก็ถ่ายหนเดียว
บางครั้งก็ถ่าย ๒ หนไม่แน่นอน ทำให้มีปัญหามาก ดังนั้นวันไหนที่ผมต้องมีธุระเดินทางแต่
เช้า ผมก็จะหยุดกินน้ำ ๕ แก้ว
บางคนบอกว่ากินน้ำ ๕ แก้วทำให้อ้วน โดยเฉพาะสตรีที่รังเกียจความอ้วน ทำให้ไม่
กล้ากินน้ำ เพราะเข้าใจว่าน้ำเข้าไปสะสมในตัวทำให้ตัวอ้วน     จริงๆแล้วน้ำไม่มีทาง
สะสมในร่างกายได้ กินเข้าไปมากเท่าใดร่างกายก็จะขับส่วนเกินออกหมด คนที่อ้วนนั้น
เพราะมีไขมันในร่างกายมากเกินไป และน้ำไม่มีทางแปลงกายเป็นไขมันได้ ทางเดียวที่น้ำ
ทำให้อ้วนได้คือน้ำทำให้เจริญอาหาร ทำให้กินอาหารได้อร่อย กินได้มากกินจุ ซึ่งก็ป้องกัน
ได้โดยกินอาหารที่มีประโยชน์เช่น กินผัก ผลไม้ หิวนักก็ดีแล้ว กินพวกนี้เข้าไปมากๆร่างกาย
จะได้แข็งแรง ส่วนขนมนมเนยก็กินแต่น้อยๆ ข้าวก็เปลี่ยนเป็นข้าวกล้องเสียเลย ดูทีว่ากิน
อย่างนี้จะอ้วนไหม

อื่น ๆ ....ที่ใช้น้ำรักษา
  • ท้องเสีย.....กินน้ำอย่างเดียวก็หายได้
    จริงๆแล้วท้องเสียไม่ใช่โรคที่รุนแรงจนทำให้ถึงตาย แต่ก็มีคนตายเพราะ
    ท้องเสีย โดยมากเป็นกับทารกและคนแก่ ที่ตายกันเพราะเสียน้ำมากไป ที่เสียน้ำ
    เพราะมีความเชื่อผิดๆไปว่า ท้องเสียห้ามกินน้ำ เข้าใจผิดว่ากินน้ำแล้วทำให้ท้อง
    เสีย ความเข้าใจผิดนี้เกิดจาก เมื่อเรากินน้ำเข้าไปสักพักแล้วก็ปวดท้องถ่าย เวลา
    ถ่ายก็ถ่ายเป็นน้ำออกมา เราก็เลยนึกไปว่าเพราะน้ำแท้ๆ ทีเดียวที่ทำให้
    ถ่าย ทำให้หยุดกินน้ำกันไป    ในกรณีนี้น้ำกลายเป็นแพะรับบาป ทำคุณบูชาโทษ เพราะน้ำไม่
    ได้ทำให้ท้องเสียมากขึ้นเลย แต่กลับจะทำให้โรคท้องเสียดีขึ้น มีการทดลองยืนยัน
    กันแล้วว่า ถ้าไม่ใช่ท้องเสียที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์แล้ว กินน้ำอย่างเดียวก็หายได้
    ไม่ต้องพึ่งยาเลย ดังนั้นเวลาท้องเสียให้กินน้ำเข้าไปเยอะๆเถอะครับ จะได้ไม่ระโหย
    อ่อนเพลีย ถ้ามีเกลือและน้ำตาลใส่ให้มีรสหวานๆ ปนเค็มนิดๆ ก็จะดี เพราะน้ำตาล
    ให้พลังงาน เกลือช่วยชดเชยเกลื่อแร่ที่เสียไป ถ้าได้น้ำข้าวต้มยิ่งดี น้ำใบฝรั่งต้มก็ได้
    โจ๊กก็ได้ อะไรก็ได้ที่เป็นน้ำ กินเข้าไปรับรองท้องเสียหายไว
  • จุกเสียดท้อง.....ต้องขิง...ยาหม่อง...น้ำร้อน
    เวลาจุกเสียดท้อง ปวดท้องอันเกิดจากกินอาหารมากเกินไป กินอาหารที่
    เริ่มบูด กินอาหารย่อยยาก มีวิธีแก้ที่ชะงัดดังนี้ คือ
    เอาขิงแก่ๆ แง่งขนาดเท่าหัวแม่มือ ๒ แง่ง หั่นเป็นแว่นต้มกับน้ำ ๑ แก้ว ต้ม
    ให้เดือดกรุ่นๆ นาน ๒๐ นาที คือต้มเคี่ยวจนยาข้น เวลาต้มอย่าเปิดฝา เพราะตัวยา
    จะระเหยไปหมด ต้มเสร็จรินใส่ถ้วย ใส่น้ำตาลพอหวาน แล้วจิบกินขณะที่ร้อนๆ ให้
    หมดแก้ว จากนั้นเอายาหม่องทาท้องพอให้รู้สึกร้อน แล้วเอาถุงพล้าสติกใส่น้ำเดือด
    มาวางทับที่ท้องเหนือสะดือ ก่อนวางต้องเอาผ้าปูท้องก่อน และไม่ต้องใส่น้ำให้เต็ม
    ถุง ใส่สักหนึ่งในสี่ของถุงก็พอ   ขนาดของถุงนั้นเลือกเอาใบโตพอจะปิดท้องได้ เสร็จ
    แล้วเอาหมอนหรือผ้าห่มทับถุงน้ำร้อนอีกที วิธีนี้เด็ดขาดมาก เพราะเป็นการร่วม
    แรงกันระหว่างขิง ยาหม่อง และน้ำร้อน   เป็นสามวิธีที่พ่อแม่ปู่ย่าใช้ต่อๆ กันมานาน
    แล้ว     ลองดูเถอะครับ ถ้ากินยาอะไรไม่หาย ก็ต้องทำแบบนี้ ยอมเสียเวลาหน่อย
    แต่ไม่ผิดหวัง
  • น้ำ...ขับเสมหะที่ดีที่สุด
    การที่เสมหะติดคอทำให้ไอโขลกๆ นั้น   เป็นเพราะเสมหะเหนียวเหมือน
    กาวแป้งเปียก ถ้าเรากินน้ำเข้าไปมากๆ น้ำจะทำให้ผนังที่คอชุ่มมากขึ้น มีน้ำมาก
    ขึ้น เสมหะเมื่อโดนน้ำก็อ่อนเหลว ไม่ติดเหนียวหนึบ แบบเดียวกับที่กาวโดนน้ำ เมื่อ
    เสมหะไม่เหนียวก็ถูกขับได้ง่าย
    วิธีกิน     ถ้าไอจากการเป็นหวัด ให้กินน้ำ ๑ - ๒ แก้ว แล้วสักครู่หนึ่งอาการ
    ไอจะหายไป     พอขาดน้ำสัก ๑ - ๒ ชั่วโมงก็ไอใหม่ ก็กินน้ำเข้าไปอีก ๑ - ๒ แก้ว
    ประมาณวัน หรือ สองวัน อาการไอก็จะทุเลาหรือหายไป พยายามดื่มน้ำอุ่น แต่อย่า
    ให้อุ่นจัดนัก จะทำให้แสบคอ เหมือนคอถูกน้ำร้อนลวก หรือถ้าจะกินยาก็ให้กินน้ำ
    ตามด้วยจะทำให้หายเร็วจึ้น
  • ไฟไหม้...น้ำร้อนลวก...ไม่มีอะไรดีเท่าน้ำแข็ง
    กรณีถูกน้ำร้อนลวก หรือไปนาบกับท่อไอน้ำร้อนเข้า ให้ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งเข้า
    ประคบจะได้ผลดีที่สุด มีตำราเรียนเขียนไว้ว่า ขณะที่ผิวหนังร้อนอยู่นั้น สิ่งที่ใช้แก้
    ได้ดีที่สุด ก็คือความเย็น
    โดยการนำผ้าห่อน้ำแข็งวางโปะลงไปเลย พอรู้สึกว่าเย็น
    มากไป จนเริ่มรู้สึกปวด ก็ยกห่อน้ำแข็งขึ้น พอหายปวดก็โปะลงไปใหม่ โปะแล้วยก
    แบบนี้ อย่าให้มากไปน้อยไป ประมาณสัก.๓๐นาที - ๑ ชั้วโมง ที่สำคัญต้องให้หาย
    ปวดสนิทก่อน จึงจะเอาห่อผ้าน้ำแข็งขึ้น ดูที่ผิวหนังจะไม่พองขึ้นมา ติดสนิทดี ผิวมี
    รอยย่นนิดหน่อย และมีสีคล้ำเป็นรอยไหม้ แต่จะไม่เป็นแผล       ถ้าเป็นแผลแล้ววิธี
    นี้อาจไม่เป็นผล ต้องทดสอบดู
  • รมไอน้ำ.....วิธีรักษากุ้งยิงขนานแท้และดั้งเดิม
    เมื่อรู้สึกเจ็บที่เปลือกตา เป็นกุ้งยิง     วิธีรักษาก็รมด้วยไอน้ำทันที โดยต้ม
    น้ำสักหม้อหนึ่ง ใช้หม้อใหญ่สักหน่อย ต้มจนเดือดแล้วยกลง เอาผ้าคลุมหัวกับหม้อ
    น้ำ ค่อยๆ แง้มฝาหม้อให้ไอน้ำค่อยๆ ออกมา ไม่เช่นนั้นจะร้อนมากจนตาทนไม่ไหว
    กะระยะห่างระหว่างตากับหม้อให้พอดี อย่าเข้าใกล้จนร้อนเกินไป อย่าอยู่ไกลจนไม่
    รู้สึกร้อน   รมเช่นนี้จนหม้อน้ำหมดไอ ทำเช่นนี้วันละ ๔ ครั้ง หรือทุกครั้งที่เริ่มรู้สึก
    ปวดหรือเคืองตา จะรู้สึกอาการปวดที่หัวกุ้งยิงลดลงทันที     ประมาณวัน หรือ สอง
    วัน ก็จะหาย
น้ำยังรักษาโรคอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะ เจ็บคอ ร้อนใน
ปวดเมื่อย ปวดหัว เส้นท้องตึงเป็นเถาดาน ฯลฯ

ที่มาข้อมูล... น้ำ เคล็ดลับระงับโรค
โดยคุณประยูร         จรรยาวงศ์
E -Mail : thunder185@hotmail.com